วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553

สังขยาจิ้มขนมปัง




ส่วนผสม

น้ำตาลทราย                     1,000                    กรัม
หัวกะทิ                              2                           ก.ก(8 ถ้วย)
เกลือ                                 2                           ช้อนชา
ไข่ไก่                                 12                         ฟอง
แป้งข้าวโพด                     120                       กรัม
นมข้นจืด                          1                           กระป๋อง
น้ำใบเตย                          1/2                        ถ้วย
น้ำเปล่า                             1 1/2                    ถ้วย

วิธีทำ
1. ละลายแป้งกับน้ำกะทิ
2. นำไข่ใส่กระทะทอง ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน ใส่เกลือ น้ำตาล ส่วนผสมตามข้อ 1 น้ำใบเตย กวนให้เดือด (ใช้ไฟอ่อน) จิ้มกับขนมปังได้ ไม่ข้นมาก พักให้เย็น



ข้อมูล เนื้อหา หนังสือประกอบการเรียน วิชาเบเกอรรี่ อาจารย์ นวรัตน์ แย้มพวง
           รูปภาพ http://maha2528.com/webboard/question/imagefiles/R512-3.jpg

วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ขนมปังขาไก่




ส่วนผสม

แป้งขนมปัง (ห่าน)                        500               กรัม
น้ำแข็ง                                        500             กรัม
เกลือ                                           20               กรัม
ยีสต์                                           10                กรัม
โอวาเลต                                     15               กรัม
แป้งสาลี(บัวแดง)                        500                  กรัม
เนยสด                                     100                  กรัม
นมผง                                       20                    กรัม
น้ำตาลทราย                              20                    กรัม

วิธีทำ

1 ใส่ส่วนผสมทุกอย่างรวกัน นวดจนได้ที่ พักแป้ง 15- 20 นาทีใช้พลาสติกคลุมไว้
2 ตัดแป้ง 10 กรัม/ ก้อน คลึงเป็นเส้นยาว
3 พักแป้งให้ขี้นเล็กน้อย นำไปอบอุณหภูมิ 350 °Fอบสุกทาด้วยเนยสดผสมเกลือ





ข้อมูล เนื้อหา  หนังสือประกอบการเรียน วิชาเบเกอรี่ อาจารย์นวรัตน์ แย้มพวง
           ภาพ http://www.google.com/

วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ขนมสาลี่





ส่วนผสม

แป้งเค้ก (พัด)                  250            กรัม
น้ำตาลทราย                    300            กรัม
น้ำ                                    160         กรัม
โอวาเล็ต                            10          กรัม
ผงฟู                                    1      ช้อนชา
ไข่ไก่                                   5          ฟอง
กลิ่นมะลิ                            1/2     ช้อนชา
น้ำ 2                                   60         กรัม


วิธีทำ

1 ตีไข่ น้ำ 1 น้ำตาลทราย โอวาเลต (ความเร็วสูง 8- 10 นาที)
2 ไล่อากาศ 1 นาที (ต่ำ) ค่อย ๆเติมแป้งสลับกับน้ำ 2 ตีให้เข้ากัน ใส่กลิ่น ตีความเร็วต่ำอีก 1 นาที
3 นำใส่พิมพ์นึ่งไฟแรงจัด 15 นาที ยกลง แปะลูกเกด


ข้อมูล  เนื้อหา หนังสือประกอบการเรียน วิชาเบเกอรี่ อาจารย์ นวรัตน์ แย้มพวง
             รูปภาพ  http://www.google.com/

วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ขนมไข่


ส่วนผสม

แป้งพัด                          400           กรัม
น้ำเปล่า                          1/2           ถ้วย
กลิ่นมะลิ                         1              ช้อนชา
ไข่เป็ด                            6              ฟอง
น้ำตาลทราย                  400             กรัม
มะนาว                            1              ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1 ตีไข่ น้ำ น้ำตาบทราย น้ำมะนาว (ความเร็วสูง 8- 10 นาที)
2 ไล่อากาศ 1 นาที (ต่ำ) ค่อย ๆเติมแป้งสลับกับน้ำ ตีให้เข้ากัน ใส่กลิ่น ตีความเร็วต่ำอีก 1 นาที
3 นำใส่พิมพ์วางลูกเกดนึ่งไฟแรงจัด 15 นาที ยกลง


ข้อมูล เนื้อหา หนังสือประกอบการเรียน วิชาเบเกอรี่ อาจารย์ นวรัตรน์ แย้มพวง
           ภาพ     http://www.google.com/

วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ขนมปัง ซันมาเบิ้ล




ส่วนผสมตัวขนมปัง

แป้งขนมปัง                                     2,000                  กรัม
ไข่ไก่                                                   8                   ฟอง
น้ำแข็ง                                               275                 กรัม
นมจ้นจืด                                            275                 กรัม
สารเสริม                                               30                กรัม
น้ำตาล                                                500                กรัม
เกลือ                                                     20                กรัม
เนยสด                                                 400                กรัม
ยีสต์                                                       40                กรัม

ส่วนผสมหน้าซันมาเบิ้ล

เนยสด                                                  500                 กรัม
น้ำตาล                                                 700                  กรัม
โอวาเลต                                                60                  กรัม
ไข่ไก่                                                       8                 ฟอง
แป้งว่าว                                                700                   กรัม
วานิลลา                                                   1                  ฝา

วิธีทำตัวขนมปัง
1 แป้ง ยีสต์ คนให้เข้ากัน ใส่เกลือ น้ำตาล เนยสด ไข่ไก่ นมข้นจืด น้ำแข็ง สารเสริม นวดด้วยเครื่อง จับเวลา 20 นาที แล้วเช็คให้เนื้อแป้งเนียน ด้วยการขึงแผ่นบาง ๆ
2 ตัดแบ่งเป็นก้อน 60 กรัม คลึงเป็นก้อนกลม แล้วพักแป้งไว้ให้ขึ้นฟู

วิธีทำหน้าซันมาเบิ้ล
1 ใส่เนย น้ำตาล (แค่ครึ่งเดียว) และโอวาเลต ในเครื่องใช้ตะกร้อ สปีดต่ำก่อน 1 นาที
2 ใส่ไข่ทีละฟอง เปลี่ยนสปีดสามนาน 5 นาที พอขี้นฟู ใส่วานิลา ลดสปีดก่อน 1 นาที
3 แบ่งเเป้งเป็น สามส่วน ค่อย ๆใส่ทีละส่วน ผสมให้แป้งเข้ากัน ยกออกจากเครื่อง
4 น้ำตาลส่วนที่เหลือ เทลงไป คนเบา ๆอย่าให้น้ำตาลละลาย
5 ตักใส่ถุงแลว ไปบีบใส่บนก้อนขนมปังที่ขี้นฟูได้ที่แล้ว บีบเป็นวงกลมให้ทั่ว บีบเสร็จ ให้นำเช้าเตาอบทันที ความร้อน 350   °F ประมาณ 20 นาที
6 นำออกจากเตา ตักวางบนตะแกรง ผึ่งลมให้เย็น



ข้อมูล เนื้อหา หนังสือประกอบการเรียน วิชาเบเกอรี่ อาจารย์ นวรัตน์ แย้มพวง
            ภาพ     http://www.google.com/

วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ขนมปังหวาน


ส่วนผสม

แป้งขนมปัง                                            2            กิโลกรัม
น้ำตาล                                                  360           กรัม
เกลือ                                                     30             กรัม
ไข่ไก่                                                     2               ฟอง
ยีสต์                                                      30             กรัม
สารเสริมสุขภาพ                                     20              กรัม
น้ำแข็ง                                                  800-850     กรัม
มาร์การีน(เนยขาว)                                  300            กรัม




วิธีทำ

1. แป้ง ยีสต์ คนให้เข้ากัน ใส่เกลือ น้ำตาล เนยสด ไข่ไก่ น้ำแข็ง สารเสริมสุขภาพ
2. นวดด้วยเครื่อง จับเวลานาน 20 นาที โดยประมาณ
3. นำแป้งออกมาเล็กน้อย กางออกสี่เหลี่ยมผืนผ้า ให้เนื้อแป้งเนียนเสมอกัน ถ้ายังไม่เนียนดีก็ให้นวดต่อ
4. นำแป้งออกจากเครื่องนวด แล้วตัดแบ่งเป็นชิ้น ๆตามต้องการ คลึงแป้งเป็นก้อนกลม พักแป้งไว้ ใช้แผ่นพลาสติกคลุม นำไปขึ้นรูปตามต้องการ



ข้อมูล เนื้อหา หนังสือประกอบการเรียน วิชาเบเกอรี่ อาจารย์ นวรัตน์ แย้มพวง
            ภาพ    http://www.google.com/

วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553

บัตเตอร์เค้ก



ส่วนผสม

แป้งพัด                                               900                        กรัม
เนยละลาย                                          900                        กรัม
ไข่ไก่                                                  21                          ฟอง
นมสด                                                1 1 ⁄2                 ถ้วยตวง
โอวาเลต                                            45                          กรัม
ผงฟู                                                   30                           กรัม
น้ำตาล                                              750                          กรัม
เกลือ                                                 1 1⁄2                    ช้อนชา

 

วิธีทำ

1. ใส่ส่วนผสมที่เป็นของแห้งทั้งหมด คนให้เข้ากัน
2. ใส่ส่วนผสมที่เป็นตองเหลวทั้งหมด (ยกเว้นเนย)
3. ใส่เครื่องปั่น ตีด้วยตะกร้อสปีดเบอร์ 1 พอให้เข้ากัน
4. ใช้สปีดเบอร์ 3 จับเวลา 5 นาที
5. เปลี่ยนสปีดเบอร์ 1 จับเวลา 1 นาที
6. ในเนยที่ละลายแล้ว เทลงไปทั้งหมด ผสมให้เข้ากัน ยกขึ้น
7. รองกระดาษไขที่พิมพ์ นำตัวเค้กเทใส่พิมพ์ ประมาณ 3⁄4 ของถาด นำเข้าเตาอบ 350°F
8. อบเสร็จ แซะรอบพิมพ์ แล้วนำออกจากพิมพ์ทันที วางบนตะแกรง ทิ้งไว้ให้เย็น





ข้อมูล เนื้อหา หนังสือประกอบการเรียน วิชา เบเกอรี่ อาจารย์นวรัตน์ แย้มพวง
           รูปภาพ http://www.google.com/

วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

คุกกี้เนยสด




ส่วนผสม

แป้งว่าว                             1,400          กรัม

ผงฟู                                      20          กรัม 

เนยสด                                 900           กรัม

เกลือ                                       2          ช้อนชา

ไข่ไก่                                       4           ฟอง

วานิลลา                                   1           ช้อนโต๊ะ

ไอซิ่ง                                      600         กรัม



วิธีทำ

1. ใส่เนย และไอซิ่ง ตีด้วยใบไม้ สปีดเบอร์ 1 ตีให้เข้ากัน เปลี่ยนสปีดเบอร์ 3 ให้เนยอ่อนตัวลงใส่ไข่ตีให้เข้ากัน

2. เปลี่ยนตีด้วยตะกร้อ จับเวลา 10 นาที สังเกตให้เนยขึ้นฟูและเนยขาวขึ้น แบ่งเเป้งเป็น 2 ส่วนเติมทีละส่วน ผสมให้เข้ากัน เติมส่วนที่เหลือ ผสมให้เข้ากัน

3. ทาเนยขาวที่ถาดให้ทั่ว ตักคุกกี้ใส่ถุงบีบ บีบคุกกี้บนถาด ให้ได้ขนาดที่เท่ากัน แล้วนำเข้าเตาอบ อุณหภูมิ 300   °F นาน 20 นาที หรือจนกระทั่งขนมสุก นำออกจากเตา แซะวางบนตะแกรงทิ้งไว้ให้เย็น



ข้อมูล เนื้อหา หนังสือประกอบการเรียน วิชาเบเกอรรี่ อาจารย์ นวรัตน์ แย้มพวง
           รูปภาพ  http://www.goolge.com/

วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ส่วนประกอบของเบเกอรี่





แป้งสาลี    มีคุนสมบัติพิเศษซึ่งเมื่อรวมตัวกับน้ำในอัตราส่วนที่เหมาะสมโปรตีนในแป้งสาลีก็จะฟอร์มตัวให้มีโครงสร้างเหมือนฟองน้ำจึงเกิดเป็นก้อนแป้ง ที่มีความเหนียวและยืดหยุ่นสูง ชนิดของแป้งสาลีแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ๋ๆ คือ

แป้งขนมปัง   เหมาะสำหรับทำขนมปังเพราะเป็นแป้งที่มีโปรตีนสูงเหนียวและยืดหยุ่นกว่าแป้งเอนกประสงค์


แป้งเอนกประสงค์ เหมาะสำหรับทำ พาย คุกกี้และเค้กประเภทเนื้อหนัก


แป้งเค้ก เป็นแป้งที่มีโปรตีนต่ำเหมาะสำหรับทำ ซาลาเปา คุกกี้เนื้อเบา เเคล ขนมปุยฝ้าย




น้ำตาล เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่เป็นผลึก ละลายได้ดีในน้ำและมีรสหวานจัดอยู่ในอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต แต่น้ำตาลที่นำมาใช้ในการทำเบเกอรี่มีอยู่ 3 ชนิดคือ

น้ำตาลทรายขาว  ควรมีความละเอียด และขาวเพราะจะผสมเข้ากับส่วนผสมอื่นได้ดี

น้ำตาลไอซิ่ง น้ำตาลชนิดนี้เป็นผงละเอียดที่มีแป้งข้าวโพดปนอยู่ด้วยประมาณ 3 %

น้ำตาลทรายแดง  น้ำตาลชนิดนี้จะมีพวกคาราเมลเเร่ธาตุ และความชื้นปนอยู่ด้วย และยังเป็นน้ำตาลที่ไม่บริสุทธิ์ หรือเรียกกว่าน้ำตาลดิบ




ยีสต์   เป็นรากลุ่มหนึ่งที่ดำรงชีวิตอยู่ในสภาพเซลเดียวเป็นส่วนใหญ่ มีการขยายพันธุ์โดยการแตกหน่อ มีขนาดเล็กมากมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ยีสต์นี้มีอยู่ตามธรรมชาติ เป็นตัวสำคัญที่ทำให้เกิดการหมัก และยังเป็นอาหารที่คุณค่าอีกด้วย เพราะเป็นแหล่งของไวตามินและเอนไซม์






เบคกิ้งโซดา  เป็นสารเคมีที่เมื่อได้รับความร้อนจะสลายตัวให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ออกมา ซึ่งถ้าใช้ในปริมาณมากจนเกินไปจะทำให้ผลิตภัณฑ์มีรสเฝื่อน






ผงฟู ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ขึ้นฟู  โดยที่ผงฟูจะมีส่วนผสมของแป้งข้าวโพดด้วยส่วนหนึ่ง มีหน้าที่ทำให้ผงฟูไม่จับตัวกันเป็นก้อนและไม่ให้เกิดความชื้น







ไขมัน  เป็นส่วนผสมที่มีความสำคัญยิ่งในการทำขนมอบ เป็นตัวที่ทำให้เนื้อขนมปังและขนมเค้กนุ่ม  ชุ่มชื้นเก็บได้นานขึ้น  เป็นตัวทำให้คุกกี้แฟ่ตัวและโปร่งเบา และเป็นตัวที่เพิ่มความมันเงาให้กับผลิตภัณฑ์ ไขมันที่ใช้ในการทำเบเกอรี่ประกอบไปด้วย มันหมูแข็ง เนยสด ไขมันพืชหรือเนยขาว น้ำมันพืช ไขผสมระห่างพืชและสัตว์หรือมาการีน โกโก้บัตเตอร์





นม เป็นสารละลายที่มีส่วนเล็ก ๆของไขมัน โปรตีน น้ำตาลและแร่ธาตุปนอยู่ โดยไม่แยกออกจากกันเมื่อตั้งทิ้งไว้






ไข่  ไข่ที่มีคุณภาพที่ดีควรจะเป็นไข่สด มีช่องอากาศ ไข่แดงควรอยู่ตรงกลางและไม่เคลื่อนไปกับการหมุนไข่ ไข่ขาวจะเป็นเจล มีความคงตัวและยึดแน่นกับไข่แดง ไม่มีกลิ่นเหม็น





ข้อมูล เนื้อหา หนังสือประกอบการเรียนวิชาเบเกอรี่ อาจารย์ นวรัตน์ แย้มพวง
            รูปภาพ http://www.google/

อุปกรณ์เบเกอรี่



เครื่องชั่ง มีความสำคัญในการทำเบเกอรี่และมีผลต่อลักษณะของขนม  เนื่องจากถ้ามีการชั่งหรือตวงผิด หรือใช้อุปกรณ์ผิดก็จะทำให้ขนมนั้นทำแล้วไม่ดี หรือทำออกมาแล้วไม่ได้ลักษณะที่ควรจะเป็น อุปกรณ์ที่จะใช้ในการชั่งหรือตวงมีหลายชนิด เช่น

ช้อนตวง  มีอาจทำจากโลหะหรือพลาสติคก็ได้ ใช้สำหรับตวงของเหลวหรือของแห้งก็ได้ ถ้าใช้ตวงของแห้งอย่าใช้ช้อนตวงตักอาหารโดยตรง เพราะจะทำให้ได้ปริมาตรที่มากเกินไป ต้องใช้วัสดุอื่นตักใส่ช้อน แล้วใช้มีดปาดให้เรียบอีกครั้ง

ถ้วยตวง   จะแยกเฉพาะระหว่างตวงของแห้งกับของเหลว  ถ้าเป็นถ้วยตวงของแห้งจะใช้ตวงส่วนผสมที่เป็นของแห้งเท่านั้นเช่น แป้ง น้ำตาล นมผง เนย ถ้าเป็นถ้วยตวงของเหลว ก็จะมีลักษณะเป็นแก้ว หรือพลาสติค แล้วจะมีขีดบอกปริมาตรอยู่ข้าง ๆ มีตั้งแต่ขนาด 1 ถ้วยตวง จนถึง 6 ถ้วยตวง ใช้ตวงของเหลวพวกนมสด น้ำ ไข่ขาว และของเหลวอื่น ๆ เวลาตวงก็ต้องให้ถ้วยอยู่ในระดับสายตาจึงค่อยอ่านค่าออกมา

ตาชั่ง ชั่งสิ่งของ ซึ่งตาชั่งนี้ก็มีหลายขนาด เช่นขนาด 1 กิโลกรัม เพราะจะสามารถชั่งของได้ตั้งแต่ 5 กรัมจนถึง 1 กิโลกรัมและที่สำคัญได้มาตรฐานมากที่สุดในการชั่ง แต่ควรระวังอย่าใช้ชั่งของหนักเกิน 1 กิโลกรัม เพราะจะทำให้ตาชั่งเสียได้




เครื่องตีแป้ง  เป็นแบบที่นิยมใช้กันมากในการทำเบเกอรี่ เพราะสามารถใช้งานได้หลายอย่างตั้งแต่ตีไข่จนกระทั่งนวดแป้ง เครื่องผสมชนิดนี้จะมีตั้งแต่ขนาดเล็กจนกระทั่งถึงขนาดใหญ่ แล้วแต่ปริมาตรที่ต้องการจะใช้ อุปกรณ์ในตัวเครื่องจะประกอบไปด้วย แกนกลางที่มีเดือยสำหรับใส่เครื่องช่วยในการผสม ซึ่งมีอยู่ 3 ชนิดคือ



1. ชนิดที่เป็นตะขอ ใช้สำหรับนวดผสมแป้งให้เป็นก้อนโตในการทำขนมปัง โดยตะขอนี้จะทำการม้วนพับ ดึงก้อนแป้งเพื่อให้เกิดเป็นกลูเต็นที่ดี


2. ลักษณะเป็นรูปใบไม้ ใช้ตีเนยกับน้ำตาลให้ขึ้นฟู เพื่อทำเค้กที่ต้องตีเนยกับน้ำตาล หรือตีเนยกับแป้งอื่น ๆ เช่น พวกพายร่วนจ่าง ๆ หรือใช้ในการตีเนยกับน้ำตาลในการทำคุ้กกี้ การใช้หัวตีลักษณะนี้จะใช้ความเร็วของเครื่องระดับปานกลางเป็นส่วนใหญ่


3. เป็นลักษณะตะกร้อ ใช้สำหรับการตีไข่ให้เกิดฟองจะใช้กับความเร็วของเครื่องค่อนข้างสูง เพื่อให้ไข่ขึ้นฟูในระยะเวลาสั้น และไข่ก็อยู่ตัวด้วย ซึ่งมีผลต่อปริมาตรของเค้ก เค้กที่นิยมใช้ตะกร้อทำได้แก่
ชิฟฟอนเค้ก สปันจ์เค้ก หรือการตีเค้กแบบขั้นตอนเดียว


เครื่องช่วยในการผสมทั้ง 3 ชนิดนี้จะถอดเปลี่ยนได้โดยใช้ตัวเครื่องผสมตัวเดียวกัน และสามารถปรับอัตราความเร็วของเครื่องได้ตามความต้องการของผลิตภัณฑ์ เราจะเลือกใช้อุปกรณ์ทั้ง 3 ชนิดอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ออกมาดีเช่น ถ้านวดแป้งก็จะใช้ตะขอ ไม่ใช้ตะกร้อ และจะใช้ระดับความเร็วต่ำ ถ้าใช้ความเร็วมากเกินไปเครื่องจะไม่เดิน เนื่องจากส่วนผสมมีน้ำหนักมากและเครื่องอาจชำรุดได้





ตู้อบ   ตู้อบที่ใช้ในเบเกอรี่มีหลายชนิด ทั้งใช้ไฟฟ้า ก็าซ และน้ำมัน ตู้อบโดยทั่ว ๆ ไปมีหลายแบบ เช่นแบบเป็นชั้น โดยบานตู้เปิดออกด้านหน้า และแบบเป็นชั้นหมุนรอบตัว สำหรับขนาดของตู้อบที่ใช้ขึ้นอยู่กับปริมาณของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการจะทำ ตู้อบที่ดีจะต้องควบคุมอุณหภูมิได้ เพราะเบเกอรี่ส่วนใหญ่อุณหภูมิในการอบนั้นมีความสัมพันธ์กับลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่จะได้ให้มีลักษณะตามต้องการและเบเกอรี่ทุกอย่างจะต้องอบให้สุก ฉะนั้นตู้อบจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก













ข้อมูล     เนื้อหา      http://www.horapa.com/content.php?Category=Bakery&No=295
               รูปภาพ     http://www.google.com/

วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประวัติเบเกอรี่

       วัฒนธรรมเบเกอรี่เป็นวัฒนธรรมของชาวตะวันตกที่มีมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์แล้ว โดยเชื่อกันว่าชาวสวิสซึ่งอาศัยอยู่ตามทะเลสาบคือผู้ริเริ่มเป็นชาติแรก โดยนำเมล็ดธัญพืชชนิดต่างๆมาคั่วก่อน แล้วพัฒนามาเป็นการตำกับครกพอหยาบ ผสมน้ำ นวดเป็นแป้ง จากนั้นจึงวางบนหินร้อนใกล้เตาจนแป้งสุก จึงได้แผ่นแป้งที่มีความกรอบ สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นขนมปัง ต่อมาได้ค้นพบยีสต์โดยบังเอิญจากการลืมแป้งสดไว้นานหลายชั่วโมง เมื่อนำมาวางกับหินร้อนแผ่นแป้งนั้นกลับมีเนื้อฟูนุ่มและหอมอย่างไม่น่าเชื่อ สันนิษฐานว่านี่คือขนมปังฟูนุ่มชิ้นแรกของโลกสอดคล้องกับความเห็นของนักประวัติศาสตร์ที่เชื่อกันว่า การทำขนมปังคงมีมาไม่ต่ำกว่า 3000 ปีก่อนคริสตกาล เนื่องจากพบหลักฐานว่าพวกทาสสมัยราชวงศ์อียิปต์โบราณได้ลืมก้อนขนมปังไว้ขณะที่กำลังนวดแป้ง การทำขนมปังเริ่มมีแพร่หลายเป็นลำดับ โดยชาวกรีกโบราณริเริ่มคิดค้นทำเตาอบแบบปิดขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้ประชาชนเอาขนมปังมาอบ การทำขนมปังรุดหน้ามากยิ่งขึ้นเมื่อชาวโรมได้เพิ่มส่วนผสมหลากชนิดลงไปในแป้งด้วย เช่น น้ำมัน น้ำผึ้ง ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า PASTRY นั่นเอง ในปี ค.ศ. 1492 วงการเบเกอรี่ก็ถูกปฏิวัติโดยชาวอเมริกัน มีการนำน้ำตาลและโกโก้ใส่ลงไปในพาสทรี สร้างความฮือฮาแก่ผู้คนอย่างมากในศตวรรษที่17 และ18มีการแบ่งแยกระหว่างคำว่าพาสทรีกับเบเกอรี่อย่างชัดเจน โดยมียีสต์กับอุณหภูมิที่ใช้ในการอบเป็นตัวกำหนด
        สำหรับประเทศไทย เบเกอรี่เริ่มเป็นที่รู้จักจากการแนะนำของ ท้าวทองกีบม้า หรือ ดอนญ่า ทอร์ เดอ กีมาร์ ภริยาเจ้าพระวิชาเยนทร์หัวหน้าห้องเครื่องในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ (พ.ศ.2271-2275 ) และเรียกขนมเหล่านั้นตามกรรมวิธีทำ เช่น ขนมผิง








ข้อมูล เนื้อหา http://www.aroi.ob.tc/About.html
           รูปภาพ http://www.google.com/