วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประวัติเบเกอรี่

       วัฒนธรรมเบเกอรี่เป็นวัฒนธรรมของชาวตะวันตกที่มีมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์แล้ว โดยเชื่อกันว่าชาวสวิสซึ่งอาศัยอยู่ตามทะเลสาบคือผู้ริเริ่มเป็นชาติแรก โดยนำเมล็ดธัญพืชชนิดต่างๆมาคั่วก่อน แล้วพัฒนามาเป็นการตำกับครกพอหยาบ ผสมน้ำ นวดเป็นแป้ง จากนั้นจึงวางบนหินร้อนใกล้เตาจนแป้งสุก จึงได้แผ่นแป้งที่มีความกรอบ สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นขนมปัง ต่อมาได้ค้นพบยีสต์โดยบังเอิญจากการลืมแป้งสดไว้นานหลายชั่วโมง เมื่อนำมาวางกับหินร้อนแผ่นแป้งนั้นกลับมีเนื้อฟูนุ่มและหอมอย่างไม่น่าเชื่อ สันนิษฐานว่านี่คือขนมปังฟูนุ่มชิ้นแรกของโลกสอดคล้องกับความเห็นของนักประวัติศาสตร์ที่เชื่อกันว่า การทำขนมปังคงมีมาไม่ต่ำกว่า 3000 ปีก่อนคริสตกาล เนื่องจากพบหลักฐานว่าพวกทาสสมัยราชวงศ์อียิปต์โบราณได้ลืมก้อนขนมปังไว้ขณะที่กำลังนวดแป้ง การทำขนมปังเริ่มมีแพร่หลายเป็นลำดับ โดยชาวกรีกโบราณริเริ่มคิดค้นทำเตาอบแบบปิดขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้ประชาชนเอาขนมปังมาอบ การทำขนมปังรุดหน้ามากยิ่งขึ้นเมื่อชาวโรมได้เพิ่มส่วนผสมหลากชนิดลงไปในแป้งด้วย เช่น น้ำมัน น้ำผึ้ง ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า PASTRY นั่นเอง ในปี ค.ศ. 1492 วงการเบเกอรี่ก็ถูกปฏิวัติโดยชาวอเมริกัน มีการนำน้ำตาลและโกโก้ใส่ลงไปในพาสทรี สร้างความฮือฮาแก่ผู้คนอย่างมากในศตวรรษที่17 และ18มีการแบ่งแยกระหว่างคำว่าพาสทรีกับเบเกอรี่อย่างชัดเจน โดยมียีสต์กับอุณหภูมิที่ใช้ในการอบเป็นตัวกำหนด
        สำหรับประเทศไทย เบเกอรี่เริ่มเป็นที่รู้จักจากการแนะนำของ ท้าวทองกีบม้า หรือ ดอนญ่า ทอร์ เดอ กีมาร์ ภริยาเจ้าพระวิชาเยนทร์หัวหน้าห้องเครื่องในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ (พ.ศ.2271-2275 ) และเรียกขนมเหล่านั้นตามกรรมวิธีทำ เช่น ขนมผิง








ข้อมูล เนื้อหา http://www.aroi.ob.tc/About.html
           รูปภาพ http://www.google.com/

1 ความคิดเห็น:

  1. เจ๋งมากเลยครับ ถ้ามีเพลงแจ๊สบรรเลงหน่อยแหร่มเลย ^^

    ตอบลบ